13 กรกฎาคม 2558

ภูทับเบิกหน้าฝน กับทะเลหมอกหลังที่พัก

ภูทับเบิกหน้าฝน วันแรก << คลิก

เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาตี 5 ฝืนตาตื่นขึ้นมาเช็คว่าอากาศวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง แค่แง้มประตูออก ตัวผมถึงกับชาเพราะด้านนอกนั้นลมแรงมาก อีกทั้งมันเย็นเหน็บแบบสัมผัสได้ทันที จนผมต้องรีบปิดประตูกลับไปห่มผ้านอนต่อ

แต่เอ๊ะ เมื่อกี๊มันทะเลหมอกชัดๆ นี่ ผมลุกขึ้นอีกทีพร้อมผ้าห่มห่อตัว ไอยะ !! ไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ สำหรับฝนที่ตกเมื่อวานตอนเย็น วันนี้เลยได้เห็นทะเลหมอกขาวๆ แบบปุยนุ่นแบบนี้

ภูท้บเบิก
ทะเลหมอก ภูทับเบิก

ดูที่มิเตอร์ของที่พัก อากาศ 13 องศา อากาศประมาณนี้น้อยคนที่อยากตื่น แต่ทะเลหมอกอยู่ตรงหน้ายังไงผมก็ต้องตื่นล่ะ

ผมลืมบอกไปว่าที่พัก ที่ผมพักนั้น ชื่อว่า "ทับเบิกฮิลล์" ทุกห้องพักของที่นี่สามารถเห็นวิวทะเลหมอกได้จากระเบียงห้องครับ (ถ้าในวันนั้นมีทะเลหมอก) ส่วนราคาและสถานะห้องพัก สามารถติดต่อได้โดยตรงที่ 089-8578951,088-4193820
ภูท้บเบิก
ทับเบิกฮิลล์ ที่พักภูทับเบิก

ถ้าหากที่พักไม่สามารถเห็นทะเลหมอก เราต้องไปยังจุดชมวิวครับ ซึ่งแน่นอนว่า อาจต้องเดินไป หรือขับรถไป และต้องลุ้นว่าวันนั้นมีทะเลหมอกหรือไม่ แต่ที่ผมบอกได้แน่ๆ คือ คนเยอะแน่นอนครับ เพราะ ณ จุดชมวิวภูทับเบิกนั้น เค้ามีจุดกางเต๊นท์อยู่ด้วย ดังนั้นใครที่จะไปชมทะเลหมอกที่จุดนี้ ต้องทำใจไว้ด้วยนะ แต่ถ้าไม่ตรงกับเทศกาล คนก็น่าจะโล่งอยู่
ภูท้บเบิก
ทะเลหมอก ภูทับเบิก

ทะเลหมอกจะอยู่ให้เห็นแค่ประมาณชั่วโมงเดียวครับ พอพระอาทิตย์ขึ้นหมอกก็จางไปหมดแล้ว แต่ก็นะมาภูทับเบิกหน้าฝน แล้วได้เจอหมอกแบบนี้ก็ถือว่าโอเคล่ะ สำหรับผม
ภูท้บเบิก
ทะเลหมอก ภูทับเบิก
หลังจากนั้นผมเก็บเสื้อผ้า แล้วโทรเรียกให้รถสองแถวมารับ ขากลับก็แวะถ่ายภาพกับไร่กะหล่ำข้างทางไปเรื่อย เจอไร่นึงเค้ากะลังเก็บพอดีครับ ถือว่าเป็นไร่ที่สมบูรณ์ที่สุด ที่ผมเจอในทริปภูทับเบิกคราวนี้

ภูท้บเบิก
ไร่กะหล่ำปลี ภูทับเบิก
ผมแวะจุดชมวิวภูทับเบิกด้วยนะ หมอกก็มีให้เห็นอยู่ครับ แต่ไม่เยอะมาก จุดนี้ผมไม่ได้ถ่ายภาพมานะ เพราะภาพทะเลหมอก ตรงที่พักผม มันแจ่มกกว่าเยอะ



จากนั้นก็ลงจากภูทับเบิก ซึ่งถ้าข้างบนมีหมอก ข้างล่างระหว่างทางก็ไม่แปลกครับ ที่จะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกจำนวนมาก รถต้องเปิดไฟหน้ารถวิ่งกันเลยล่ะ

ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีครับ สองแถวก็นำผมมาส่งที่ บขส.หล่มสัก  ผมได้ตั๋ว ป.2 หล่มสัก-กรุงเทพ
ผมแนะนำนะครับว่าหากใครจะเดินทางแบบผม ถ้าเลือกได้ให้เลี่ยง ป.2 ครับ ผมเองเข้าใจผิด คิดว่า ป.2 ที่นี่ จะเหมือนทางภาคใต้บ้านผม ซึ่งบ้านผม รถออกจากสถานี้ต้นทาง ก็จะวิ่งตรงไปปลายทางเท่านั้น

แต่ป2.ที่นี่ จอดระหว่างทางเยอะมาก สุดท้ายแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับรถเมล์ดีๆ นี่เอง ผมเคยเจอแบบนี้มาแล้วตอนไปสังขละบุรี แต่ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่อีก

เหตุผลที่บอกว่าให้เลี่ยง ป.2 ไม่ใช่รถเค้าไม่ดี หรือที่นั่งไม่ดีนะครับ รถเค้านั่งสบาย แอร์เย็นฉ่ำ มีจอดให้เข้าห้องน้ำ และทานข้าวปกติครับ  แต่รถเค้าจะจอดยิบย่อย หากใครต้องการทำเวลา หรือมีนัด คุณอาจจะผิดนัดได้ครับ ซึ่งผมเองก็เจอปัญหาเช่นกัน แต่ของผมเป็นปัญหารถติด ก็รู้กันอยู่ครับ ถ้าเรามาถึงแถวนวนครค่ำๆ จะเจอรถติดมาก และนั่นทำให้ผมกลับถึงห้องพัก 3 ทุ่ม ..และหลับเป็นตาย

ภูทับเบิกหน้าฝน ใครว่าไม่มีหมอก

รีวิวเที่ยวภูทับเบิก เขาค้อ โดย นายหัว

นายหัว...





12 กรกฎาคม 2558

ภูทับเบิกหน้าฝน ใครว่าไม่มีหมอก

ภูทับเบิกหน้าฝน

คืนวันเสาร์ที่ 11 ผมจับเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เดินทางไปยังหมอชิต เป้าหมายของผมคือ ภูทับเบิก ผมมีเวลาเพียง 1 วัน สำหรับการเที่ยวครั้งนี้ ดังนั้นจึงต้องเดินทางคืนวันเสาร์ เพื่อไปให้ถึง ภูทับเบิก ของเช้าวันอาทิตย์ พัก 1 คืน และเดินทางกลับในเช้าวันจันทร์

การเดินทางไปภูทับเบิก ก่อนหน้านี้ผมขับรถขึ้นไปเอง สมาธิจึงต้องจดจ่ออยู่กับเส้นทางที่คดโค้ง และสูงชัน นั่นเป็นสาเหตุให้ผมพลาดวิวสวยๆ ระหว่างทางไปจำนวนมาก มาคราวนี้ผมจึงเลือกใช้วิธีการเดินทางโดยรถทัวร์ โดยปลายทางของผมคือสถานีตลาดหล่มสัก หลังจากนั้น ก็ติดต่อรถสองแถวให้มารับผมไปยังภูทับเบิก

รถสองแถว นอกจากจะมีบริการรับส่งขึ้นภูทับเบิกแล้ว เค้ายังมีบริการพาทัวร์เขาค้อด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับ คนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว หรือมีรถ แต่ฝีมือไม่แก่กล้าพอที่จะขับขึ้นไปเอง และการเหมารถสองแถวยังเหมาะกับการไปเที่ยวกันเป็นหมู่คณะหลายๆ คนด้วย
ภูทับเบิก
ภูทับเบิกกับหมอกตอนเที่ยงวัน

อัตราค่าบริการสำหรับรับส่งขึ้นลงภูทับเบิกนั้น อยู่ที่ประมาณ 1500-2000 ต้องบอกไว้ก่อนว่าราคานี้ไม่ได้ตายตัว เราสามารถต่อรองได้ตามความเหมาะสมครับ ส่วนเรื่องค่านำทัวร์เขาค้อ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า นั้น ราคาก็เพิ่มขึ้นมาอีกไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้นเอง หากไปกันหลายๆ คน ถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจครับ ลดภาระเรื่องการขับรถ ลดความเสี่ยงกับเส้นทางที่คดโค้งบนภูเขา และราคาน่าจะถูกกว่าราคาน้ำมันที่ต้องเติม หากนำรถไปเอง

ติดต่อรถสองแถว โทร 087-2125509 คุณสมบูรณ์ , 090-4520441 คุณกุ๊ก






จากสถานีตลาดหล่มสัก ถึงภูทับเบิก ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง (คนขับชำนาญ) ระหว่างทาง ผมเจอสภาพภูมิประเทศที่สวยงาม ตามสไตล์ของภูทับเบิก นั่นคือ เราจะเห็นไร่กะหล่ำปลี ตลอดเส้นทาง อีกทั้งยังได้รับความสนุกสนานเร้าใจ จากการเหวี่ยงของรถแบบพอดีๆ ในตอนเข้าโค้งอีกด้วย รับประกันว่าจะไม่มีอาการเมารถ หรืออ้วกครับ เพราะอากาศเย็นสบาย เอาเป็นว่าถ้าขับรถขึ้นไปเอง ไม่มีทางได้นั่งชมบรรยากาศแบบนี้แน่นอน
ภูทับเบิก
สายหมอกบางๆ กับภูทับเบิกหน้าฝน

ช่วงเดือนนี้ (กรกฏาคม) เป็นหน้าฝน ภูทับเบิก จะไม่หนาวมาก เหมือนหน้าหนาวครับ แต่อากาศอยู่ในสถานะที่เย็นสบายตัว ประมาณ 23-26 องศา แต่ถ้าฝนตกอุณหภมิจะลดลงเหลือประมาณ 18-20 องศา

เวลาเที่ยงตรงที่ภูทับเบิกอากาศจะร้อนสลับเย็นครับ ความเย็นที่ว่าก็มาจากหมอกที่ลอยมาเป็นระยะๆ ตามกระแสลม เอาเป็นว่า หากไปภูทับเบิกหน้าฝน ผมรับประกันว่าคุณจะได้เจอกับหมอกอย่างแน่นอน

จุดเด่นของภูทับเบิกหน้าฝน นอกจากอากาศจะเย็นสบายแล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวก็น้อยมากซะด้วย น้อยจนดูกลมกลืนไปกับจำนวนของชาวบ้านแถวนั้นไปเลยล่ะ  แต่ในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ก็อาจจะดูเยอะขึ้นมาบ้างนิดหน่อยครับ
ภูทับเบิก
ชาวเขากับการทำเกษตรที่ภูทับเบิก

เมื่ออากาศดีแบบนี้ ผมจึงเดินท่องไปทั่วภูทับเบิกเลยล่ะ เดินมันไปเรื่อยๆ ครับ เหนื่อยก็พัก ถ่ายรูปไปมั่ง แวะคุยกับกับชาวบ้านมั่ง ตามสไตล์นักท่องเที่ยวหน้าด้านแบบผม

ภูทับเบิก
ไร่กะหล่ำกับสายหมอก ของคู่กันที่ภูทับเบิก
ช่วงตอนเย็นมีฝนตกลงมาหนักมาก นั่นเป็นสัญญาณที่ดีครับ เพราะจากการสอบถามชาวบ้าน ก่อนผมมา ภูทับเบิกนั้น ไม่มีฝนมาเกือบอาทิตย์แล้ว ถึงแม้จะอยู่ช่วงหน้าฝนก็เถอะ  แต่สัญญาณที่ดีสำหรับผมก็คือ ถ้าฝนตกตอนเย็น พรุ่งนี้เช้า ผมอาจจะมีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกนั่นเอง

ภูทับเบิกกับทะเลหมอก วันที่ 2