14 พฤษภาคม 2558

ไวรัสตับอักเสบบี ภัยเงียบ บ่อเกิดมะเร็งตับ


ไวรัสตับอักเสบบี
ไวรัสตับอักเสบ บี ทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์ตับและทำให้เซลล์ตับตาย หากเป็นเรื้องรังจะเกิดพังผืด ตับแข็ง และมะเร็งตับได้ จากการวิจัยได้พบว่า การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เป็นต้นเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมะเร็งตับ ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบมากในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ และผู้ที่ไม่มีภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบบี

http://www.naihua.net/2015/05/hepatitis-b-virus.html
ไวรัสตับอักเสบบี
ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยมะเร็งตับ จะเป็นป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีมาก่อน ความน่ากลัวของไวรัสตับอักเสบบี คือ เมื่อได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย คนๆ นั้นจะไม่รู้ตัว เนื่องจากจะไม่มีอาการใดๆ เลย การฟักตัวของเชื้อจะเป็นไปอย่างเงียบๆ  บางคนเริ่มมีอาการจาม มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว อาจทำให้คิดว่าแค่เป็นหวัดธรรมดา

ไวรัสตับอักเสบบี  เป็น DNA ของไวรัส ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้ตับในการพัฒนา พอกลายเป็นไวรัสที่สมบูรณ์ ก็ขยายไปอยู่ในกระแสเลือด และแพร่เชื้อไปยังเซลล์อื่นๆ ต่อไป

อาการไวรัสตับอักเสบบี

ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี จะไม่แสดงอาการและไม่มีอาการเฉพาะ โดยจะมีอาการคล้ายกับการป่วยทั่วๆไป เช่น มีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาเจียนบ้าง  แต่เมื่ออาการเริ่มหนักขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการ ขาบวม พุงโต ตัวซีดสีเหลือง ตาเหลือง บางครั้งก็อาเจียนแบบมีเลือดผสมมาด้วย หากเราอยากรู้ว่าเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีหรือเปล่า ต้องให้แพทย์เจาะเลือดออกมาวินิจฉัยเท่านั้น

ใครบ้างที่จะร่วมเสี่ยงติดเชื้อ หากเราเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี

  1. พ่อหรือแม่ของเรา เสี่ยงที่จะเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี
  2. พี่หรือน้องของเราเสี่ยงรับเชื้อ จากตัวเราและมีโอกาสเป็นโรคไวรัสนี้ได้
  3. คู่สมรสของเรา เสี่ยงรับเชื้อโดยตรงจากการมีเพศสัมพันธุ์
  4. บุตรของเรา เสี่ยงรับเชื้อโดยตรง

การป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี

ปัจจุบันได้มีวัคซีนสำหรับป้องกันไวรัสตัวนี้แล้ว หากเราตรวจพบว่าตัวเองไม่มีภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบบี ให้รีบฉีดวัคซีนป้องกันโดยเร็ว โดยสามารถติดต่อโรงพยาบาลได้ทุกที่ การฉีดวัคซีน แพทย์จะฉีดวัคซีน 3 เข็ม ตามนัด หลังจากนั้นเราค่อยเจาะเลือดหาภูมิต้านทานอีกทีนึง ตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ